ทุกครั้งที่เราเปิดเข้าไปยังเว็บไซต์ต่างๆ เราไม่ได้ส่งข้อมูลแค่ว่าต้องการดูหน้าไหนไปเท่านั้น แต่ยังมีหลายเลข IP Address และข้อมูลอื่นๆ ของบราวเซอร์ติดไปด้วย ซึ่งเซิร์ฟเวอร์จะทำการเก็บข้อมูลเหล่านี้ลงล็อกไฟล์ของระบบ ทำให้สามารถสืบกลับมาหาต้นทางของเราได้อย่างไม่ยากเย็นอะไรนัก วิธีการที่เราจะใช้ในการอำพรางตัวบนโลกอินเตอร์เน็ตก็สามารถทำได้โดยการใช้งานพรอกซี่ ซึ่งถ้าเป็นก่อนหน้านี้เราก็ต้องหาพรอกซี่เซิร์ฟเวอร์เพื่อใช้เป็นทางผ่าน แต่ปัญหาของการใช้งานพรอกซี่โดยทั่วไปก็คือข้อมูลจะวิ่งจากเครื่องของเราไปยังพรอกซี่และไปยังเซิร์ฟเวอร์ปลายทางเลย ทำให้ยังมีโอกาสสูงที่จะถูกติดตามกลับมาได้ว่าเราเป็นใคร แต่ Tor (The Onion Router) และ Provoxy ช่วยเราได้
Mobile : 088-799-8421
Name : LookHin
E-mail : [email protected]
https://github.com/LookHin
https://www.facebook.com/LookHin
https://twitter.com/LookHin

เมื่อวานว่างๆ ก็เลยไปเดินงานคอมมาร์ท ไม่ได้ตั้งใจไปซื้ออะไรเป็นพิเศษ แต่พอดีเดินไปเจอ USB Wi-Fi Adapters ของ TP-Link รุ่น TL-WN725N Ver:2.0 ราคา 290 บาท เห็นว่าราคาสมควรแก่การเสียเงินก็เลยซื้อติดมือกลับมาด้วย คิดว่าจะเอามาต่อกับ Raspberry Pi นี้แหละครับ ไม่อยากต่อเน็ตผ่านสายแลนแล้ว ก่อนซื้อผมก็ไม่ได้ดูก่อนด้วยว่ารุ่นนี้ใช้งานได้หรือเปล่า เห็นว่าตัวเล็กราคาถูกก็เลยซื้อซะงั้น กลับมาถึงบ้านก็ลองเอามาเสียบดู…ใช้ไม่ได้จริงๆ ด้วยครับ เข้าไปดูในเว็บไซต์
ถ้าหากว่าเราได้ทำการเปิดให้ Google Account ใช้งานระบบการล็อกอิน 2 ชั้น (2-step verification) จะเป็นการช่วยเราป้องกันไม่ให้เราถูกแฮกโดยการเดารหัสผ่านหรือว่าถูกขโมยรหัสผ่านได้ง่ายๆ เพราะระบบจะทำการตรวจสอบโดยให้เราทำการใส่รหัสอีกชุดที่จะได้จากโปรแกรม
หัวข้อนี้จะรวบรวมโปรเจคที่เกียวกับการใช้งาน IOIO board และ Android ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการทดลองเล่นๆของผมเองและไม่ได้เขียนเป็นบทความลงในเว็บ อย่างแรกมาทำความรู้จักกับ IOIO board กันก่อนครับ IOIO เป็นบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์แอนดรอยด์ได้ โดยมี พอร์ตอินพุตเอาต์พุตดิจิตอลให้ใช้มากถึง 48 ช่อง, พอร์ตอินพุตอนาลอค 16 ช่อง, พอร์ตเอาต์พุต PWM 9 ช่อง, UART และ I2C ราคาของ IOIO หรือ IOIO-Q ตอนนี้ก็อยู่ที่ประมาณ 1,000 กว่าบาทเหมาะที่จะหามาไว้ทดลองเป็นอย่างยิ่ง จริงๆผมซื้อ IOIO board มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และใช้เวลาในวันหยุดทดลองเล่นนู้นนี้ไปเรื่อยๆ จนตอนนี้ก็จะครบปีแล้ว มาดูกันว่าทดลองอะไรไปบ้าง (ซอสโค้ดทั้งหมดพร้อมวงจรผมเอาไว้ที่ Github.com นะครับ)
วันนี้มาทดลองการใช้งาน Google Cloud Print กันดูครับ โดยเราจะทำการทดลองปริ้นงานจากมือถือแอนดรอยด์ให้ไปออกที่เครื่องปริ้นที่เราได้ทำการเพิ่มเอาไว้ใน Google Cloud Print ซึ่งจริงๆ ก็สามารถสั่งปริ้นได้จากเครื่องคอมเครื่องอื่นด้วยก็ได้ครับ หรือจะใช้ Raspberry Pi เป็นเครื่องคอมฯ ที่ต่อกับปริ้นเตอร์เพื่อรอรับงานพิมพ์ก็ทำได้ (แต่ในบทความนี้ไม่ได้ทำนะ อยากลองก็ลองเอง) เริ่มกันเลยครับ สิ่งที่ต้องมีอย่างแรกก็คือ Google Chrome คิดว่าทุกวันนี้ทุกเครื่องคงมี Google Chrome กันอยู่แล้วไม่ต้องกล่าวถึงว่ามันคืออะไร เราข้ามไปที่ขั้นตอนการติดตั้ง Google Cloud Print กันเลยครับ