ฝันไว้ว่าอยากทำระบบที่สามารถคุยตอบโต้กับคอมพิวเตอร์แบบจาร์วิสใน IRON MAN มานานแล้วครับ แต่ก็ได้แค่ฝันเพราะผมเองก็ไม่มีความสามารถที่จะทำได้ขนาดนั้น แต่เราก็ยังพอจะสร้างจาร์วิสแบบโง่ๆ ด้วยงบประมาณไม่มากขึ้นมาจาก Raspberry Pi ได้เช่นกันครับ โดยสิ่งที่เราต้องมีก็คือ Raspberry Pi + ลำโพง + ไมโครโฟน โดยเราจะใช้โปรแกรมที่ชื่อว่า Snowboy Hotword Detection ข้อดีของเจ้าตัวนี้ก็คือว่ามันฟรีสำหรับ hacker อย่างเรา และสามารถสร้างโมเดลของคำที่ต้องการได้ไม่ยาก ซึ่งเจ้า Snowboy เนี้ยก็มี library ให้ใช้ได้อยู่หลายภาษาตามแต่ถนัดเลยครับ แต่ภาษาที่เราจะใช้เขียนวันนี้จะใช้เป็น Node.js
Mobile : 088-799-8421
Name : LookHin
E-mail : [email protected]
https://github.com/LookHin
https://www.facebook.com/LookHin
https://twitter.com/LookHin

ภายในของ Sonoff WiFi Smart Switch ก็เป็น ESP8266 ที่ต่อกับรีเลย์เพื่อใช้ควบคุมการเปิดปิดของวงจรไฟฟ้า โดยสามารถใช้งานกับไฟบ้านที่แรงดัน 90-250v AC(50/60Hz) รับกระแสได้สูงสุด 10A เพียงพอสำหรับการเอามาใช้สำหรับเปิดปิดหลอดไฟทั่วๆ ไป ราคาประมาณ 280-300 บาท ซึ่งทางผู้ผลิตเขาก็มีแอพชื่อ
บทความนี้จะแสดงตัวอย่างการสร้าง Telegram Bot สำหรับส่งข้อมูลแจ้งเตือนจากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ควบคุมด้วย ESP8266 อาจจะนำไปประยุกต์ใช้สำหรับทำวงจรแจ้งเตือนเมื่อมีผู้บุกรุกด้วยการนำ ESP8266 ไปต่อกับเซ็นเซอร์วัดระยะทางด้วยคลื่นอัลตราโซนิค (Ultrasonic Distance Sensor) หรือเซ็นเซอร์อินฟราเรด (PIR Sensor) ซึ้งถ้ามีผู้บุกรุกก็จะให้ส่งข้อความแจ้งเตือนมายัง Telegram หรือจะนำไปต่อกับเซ็นเซอร์ตรวจจับควันก็แล้วแต่จินตนาการ
เมื่อสักช่วงอาทิตย์ที่แล้วผมไปหาซื้อ Bluetooth Keyboard มาลองต่อกับ Raspberry Pi ดูนะครับ (จริงๆ ก็ไม่ได้จำเป็นเลย ปกติก็ remote เข้าไปอยู่ดี ซื้อเพราะอยากลองล้วนๆ) สรุปแล้วเมื่อได้ของมาก็ Pairing กับ R-Pi ไม่ได้ซะงั้น มันถามให้เราใส่ PIN ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ซึ่งถ้าเป็นบน android หรือ windows เวลาที่ Pairing กันแล้วมันจะขึ้น PIN มาที่หน้าจอให้เราพิมพ์ตามแต่นี้ไม่มี ผมลองมาหลายวิธีจนได้วิธีที่ใช้งานได้ โดยผมจะทดลองกับ Bluetooth Keyboard ของ rapoo รุ่น e6500