ถ้าหากว่าเราได้ทำการเปิดให้ Google Account ใช้งานระบบการล็อกอิน 2 ชั้น (2-step verification) จะเป็นการช่วยเราป้องกันไม่ให้เราถูกแฮกโดยการเดารหัสผ่านหรือว่าถูกขโมยรหัสผ่านได้ง่ายๆ เพราะระบบจะทำการตรวจสอบโดยให้เราทำการใส่รหัสอีกชุดที่จะได้จากโปรแกรม Google Authenticator ที่เราได้ลงทะเบียนไว้กับมือถือของเรา แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นกับโปรแกรมบางตัวที่ไม่สามารถใช้งานกับระบบการล็อกอิน 2 ชั้นแบบนี้ได้ ยกตัวอย่างเช่น Outlook, Apple Mail, Thunderbird และกับโปรแกรมที่เราเขียนเองและเรียกใช้ Service ของ Google อย่างโปรแกรมอัพโหลดรูปขึ้น Youtube เหมือนในบทความก่อนๆ ที่เราได้ทดลองไป (ถ่ายภาพ Time Lapse และอัพโหลดขึ้น Youtube ด้วย Raspberry Pi) ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานได้หากว่าเราได้ทำการเปิดการใช้งานระบบการล็อกอิน 2 ชั้นเอาไว้ แต่ Google เองก็ไม่ได้จะปล่อยไว้โดยไม่มีทางเลือกให้เรา ทาง Google ได้มีตัวที่เรียกว่า Application-Specific Passwords (ASPs) ซึ่งจะทำการสร้างรหัสผ่านขึ้นมาให้เราเอาไปใช้งานกับแอพพลิเคชันที่ไม่สามารถใช้งานระบบการล็อกอิน 2 ชั้นได้โดยเฉพาะ

หัวข้อนี้จะรวบรวมโปรเจคที่เกียวกับการใช้งาน IOIO board และ Android ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการทดลองเล่นๆของผมเองและไม่ได้เขียนเป็นบทความลงในเว็บ อย่างแรกมาทำความรู้จักกับ IOIO board กันก่อนครับ IOIO เป็นบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์แอนดรอยด์ได้ โดยมี พอร์ตอินพุตเอาต์พุตดิจิตอลให้ใช้มากถึง 48 ช่อง, พอร์ตอินพุตอนาลอค 16 ช่อง, พอร์ตเอาต์พุต PWM 9 ช่อง, UART และ I2C ราคาของ IOIO หรือ IOIO-Q ตอนนี้ก็อยู่ที่ประมาณ 1,000 กว่าบาทเหมาะที่จะหามาไว้ทดลองเป็นอย่างยิ่ง จริงๆผมซื้อ IOIO board มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และใช้เวลาในวันหยุดทดลองเล่นนู้นนี้ไปเรื่อยๆ จนตอนนี้ก็จะครบปีแล้ว มาดูกันว่าทดลองอะไรไปบ้าง (ซอสโค้ดทั้งหมดพร้อมวงจรผมเอาไว้ที่ Github.com นะครับ)

ปกติแล้ว Raspberry Pi สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ผ่านทางสาย LAN หรือไม่เราก็ต้องใช้ WiFi Dongle มาเสียบที่พอร์ต USB เพื่อใช้งาน แต่วันนี้ผมจะแนะนำอีกวิธีครับ เป็นการใช้มือถือ Android แชร์อินเตอร์เน็ตผ่านพอร์ต USB ไปให้กับ Raspberry Pi เอาไว้ใช้เวลาที่เราไม่มีสาย LAN และ WiFi Dongle หลักการทำงานคือเราต้องทำการเปิด USB Tethering ที่มือถือ Android ซะก่อน จากนั้นเสียบสาย USB จากมือถือ Android ไปที่ USB ของ Raspberry Pi โดยที่ตัว Raspberry Pi เราก็ต้องทำการเพิ่ม Network Interface ให้มันรู้จักกับ USB ก่อนนะครับ ซึ่งก็ไม่อยาก แก้บรรทัดเดียวใช้งานได้เลย มือถือที่ผมทดสอบจะเป็น HTC One X , Android Version 4.2.2

วันนี้เราจะมาลองถ่ายภาพแบบ Time Lapse ด้วย Raspberry Pi กันครับ แต่เนื่องด้วยผมไม่มีโมดูลกล้องของ Raspberry Pi ฉะนั้นวันนี้เราก็จะมาใช้ Webcam ราคาถูกๆ ที่เรามีมาใช้ในการทดลองครั้งนี้กันครับ ถึงภาพที่ได้จะไม่สวยนักเพราะกล้องความละเอียดไม่สูงมาก แต่ก็พอใช้งานได้ (จริงๆ ที่ผ่านมาก็ใช้เว็บแคมตัวนี้ทดลองมาตลอดนะ) แต่ถ้าใครจะสนับสนุนโมดูลกล้องก็ยินดีครับ ราคาพันกว่าบาทนิดๆ ในการทดลองนี้นอกจากเราจะทำ Time Lapse แล้ว เราจะทำการอัพโหลดวิดีโอที่ได้ขึ้น Youtube อัตโนมัติด้วย มาดูวิธีการกันเลยครับ

วันนี้คิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดี เปิดดูในกล่องของเล่นเห็นมีจอ LCD 16×2 อยู่ 1 ตัว ยังไม่เคยเอาออกมาเล่นเหมือนกัน เปิดดูวิธีใช้จาก adafruit.com เขาก็มีตัวอย่างที่เป็นภาษา Python ให้ดูอยู่ มองไปที่แฟนเพจของเราก็เห็นมีคนไลค์อยู่ 1079 คน https://www.facebook.com/DevExp วันนี้เราก็จะมาลองหัดเขียนโปรแกรมด้วย Python ให้เก็บข้อมูลจำนวนคนไลค์แฟนเพจจาก Facebook Graph API มาแสดงที่จอ LCD จริงๆ เราอาจจะนำไปประยุกต์ใช้กับงานอื่นๆ ก็ได้นะครับ เช่นว่า ถ้ามีคนกดไลค์ถึงจำนวนที่เรากำหนดก็ให้ระบบทำการชักธง, ปล่อยลูกโป้ง, เปิดไฟ, หรือโพสข้อมูลกลับไปที่เฟสบุคว่ามีคนไลค์ครบจำนวนแล้วก็ว่าไป แต่วันนี้เอาแค่แสดงผลออกจอ LCD 16×2 ก่อนครับ

วันนี้ป่วยนอนอยู่ห้องไม่ได้ออกไปทำงานครับ แต่เราจะไม่ปล่อยให้สภาพร่างกายเรามาปิดกันความเป็นนักทดลองของเราไว้แค่นี้ วันนี้เราจะมาทดลองการใช้งานโมดูล DHT22 (AM2302) ซึ่งเป็นโมดูลวัดอุณหภูมิและความชื้น เจ้าโมดูลตัวนี้ราคาก็ไม่แพงครับ ผมซื้อมาในราคา 200 บาท หาซื้อได้ตามเว็บขายอุปกรณ์ของ Arduino และ Raspbery Pi ทั่วไป โดยในการทดลองวันนี้เราจะไม่แค่อ่านข้อมูลออกมาดูเฉยๆ แต่เราจะทำการทวิตข้อมูลขึ้นไปยัง Twitter ด้วย เมื่ออุปกรณ์พร้อมคนพร้อมก็เริ่มกันเลยครับ

บทความนี้เรามาลองทำการติดตั้ง Printer ด้วยโปรแกรม CUPS (Common Unix Printing System) และทำการเขียนโปรแกรมด้วย PHP เพื่อติดต่อกับ Instagram API เพื่อดึงข้อมูลรูปที่มี #Hashtag ที่ต้องการมาสั่งพิมพ์อัตโนมัตที่เครื่องปริ้นของเรา โดยผมจะไม่ได้ลงรายละเอียดเกียวกับ Instagram API ผู้อ่านต้องหาความรู้เพิ่มเติมเองนะครับ โดยโค้ดที่ผมเขียนจะเป็นโค้ดง่ายๆ เพื่อให้กระชับ ซึ่งหากว่าทำตามได้แล้ว เราอาจจะนำไปใช้สำหรับงานแต่งงานหรืองานอีเว้นต่างๆได้ครับ เช่นในงานแต่งเราอาจจะให้ผู้ร่วมงานทำการถ่ายรูปบรรยากาศในงานแล้วอัพรูปใน Instagram พร้อมทั้งใส่ Hashtag ที่เรากำหนดไว้ จากนั้นเครื่องของเราก็จำทำการปริ้นรูปทั้งหมดออกมา เราสามารถนำรูปไปติดในงานสร้างความเก๋ไก๋ได้ไม่น้อย

จากครั้งที่แล้วเราได้ทำการต่อ External HDD เพื่อใช้แชร์ไฟล์ในเน็ทเวิร์คไปแล้ว วันนี้เราจะต่อยอดด้วยการติดตั้ง Transmission BitTorrent Client เพื่อใช้โหลดบิทกันต่อครับ การใช้งาน Transmission ก็ง่ายแสนง่าย เราไม่ต้องรู้คำสั่งที่เป็น command line แม้แต่น้อยก็สามารถที่จะใช้งานได้ โดยเราจะทำทุกอย่างผ่านเว็บบราวเซอร์ ไม่ว่าจะดูข้อมูลที่โหลดหรือจะโหลดไฟล์ใหม่ทุกอย่างทำได้ผ่านทางหน้าเว็บบราวเซอร์ทั้งหมด และเนื่องจากไฟล์ที่เราโหลดส่วนใหญ่เป็นหนัง(โป้) ซึ่งจะมีขนาด 800MB ถึง 4GB ฉะนั้นทางทีดีเราก็ควรจะโหลดทุกอย่างเข้ามาไว้ที่ External HDD ถ้าใครยัง Mount External HDD ไม่เป็น รบกวนกลับไปดูเรื่องก่อนหน้านี้ก่อนนะครับ การต่อ External HDD กับ Raspberry Pi เมื่อพร้อมแล้วก็มาสร้างเครื่องโหลดหนัง(โป้)กันเลยครับ