เมื่อนานมาแล้วเทพและยักษ์ได้สู้รบกันเพื่อแย้งชิงสวรรค์อันเป็นพื้นที่เดิมของพวกยักษ์ ในสมัยนั้นทั้งเทพและยักษ์ต่างมีฤทธิ์พอๆกัน เนื่องจากต่างฝากก็มักจะได้รับพรจากพระศิวะและพระพรหมมาทั้งนั้น (ปกติแล้วถ้าใครบำเพ็ญเพียรจนเป็นที่น่าพอใจและไปขอพรจากพระศิวะ พระองค์ก็จะให้พรกับทุกๆคนโดยไม่เลือกว่าจะเป็นฝ่ายไหน ต่อมาจึงมีพระพิฆเนศวร คอยทำหน้าที่สร้างอุปสรรค ไม่ให้ใครเข้าไปขอพรกันได้ง่ายๆ “พระพิฆเนศวร แปลว่าเจ้าแห่งอุปสรรค”)
โดยฝ่ายเทพนำโดยพระอินทร์ ได้พยายามทุกวิธีทางเพื่อจะยึดสวรรค์มาให้ได้ แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ยึดไม่ได้สักที ด้วยเหตุว่าพระอินทร์ถูกฤาษีตนหนึ่งสาปไว้ ให้หมดฤทธิ์อำนาจ เนื่องจากเอาดอกไม้ที่ฤาษีถวายไปให้ช้างเอราวัณเหยียบ (จะว่าไปพระอินทร์นี้ไม่ได้เก่งเรื่องการรบเอาซะเลย เก่งแต่เรื่องผู้หญิง เป็นผู้ที่สร้างปัญหาจากเรื่องผู้หญิงได้ตลอดๆ)
เมื่อสู้ยังไงก็สู้ไม่ได้พระอินทร์ก็เลยไปขอความช่วยเหลือจากพระศิวะและพระพรหม แต่พระศิวะและพระพรหมไม่เล่นด้วย ด้วยถือว่าพรอันใดได้ให้ใครไปแล้วก็ให้ไปเลย พระอินทร์จึงเหลือที่พึงสุดท้ายคือพระนารายณ์ (พระวิษณุ) ให้ช่วย ซึ่งพระนารายณ์ก็แนะนำให้ไปทำพิธีกวนเกษียรสมุทรในทะเลน้ำนม เพื่อให้ได้น้ำอมฤตมาดื่มจะได้มีพลังและไม่มีวันตาย แต่การจะกวนกวนเกษียรสมุทรได้ จะใช้แค่ฝ่ายเทพก็ไม่พอเพราะต้องใช้กำลังพลเยอะมาก พระอินทร์เลยออกบุบายทำสัญญาสงบศึกกับพวกยักษ์และชักชวนกันมาทำการกวนเกษียรสมุทร ได้น้ำอมฤตมาเท่าไรเราค่อยมาแบ่งกัน (ในใจลึกๆก็คิดว่าอย่าหวังว่าจะได้กินเลยไอ้ยักษ์) จากนั้นพระอินทร์ก็ให้นาควาสุกรีมาช่วยใช้ลำตัวเป็นเชือกเพื่อใช้ในการชัก (หลอกนาคมาอีกหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าสุดท้ายนาคก็ไม่ได้อะไร)
เมื่อเริ่มพิธีกวนเกษียรสมุทร ได้ใช้ภูเขามันทรคีรีมาตั้งบนทะเลน้ำนมที่อยู่ในไวกูณฑ์สวรรค์ โดยพระอิทร์คิดไว้อยู่แล้วว่าถ้าชักนาคเมื่อไรนาคจะต้องเจ็บปวดมากและต้องพ้นพิษออกมาแน่ๆ พระอินทร์จึงให้ยักษ์อยู่ทางหัวของนาค และให้เทพอยู่ทางหาง เมื่อเริ่มกวนนาคก็พ้นไฟพิษมาโดนยักษ์ ต่างก็ทรมานทั้งยักษ์ทั้งนาค จะมีสบายก็แต่เทพ ชักแบบชิวๆ พิธีกรรมนี้ใช้เวลาชักเป็นพันๆปีกว่าจะได้น้ำอมฤต และในระหว่างนี้ก็มีของวิเศษหลายอย่างที่ได้ออกมาก่อนน้ำอมฤตซะด้วยคือ
1.ดวงจันทร์ (พระศิวะเอาไปปักผม)
2.เพชรเกาสตุภะ
3.ดอกบัวลอยขึ้นมาพร้อมพระลักษมี
4.วารุณี เทวีแห่งสุรา
5.ช้างเผือกเอราวัณ (พระอินทร์เอาไปใช้)
6.ม้าอุจฉัยศรพ
7.ต้นปาริชาติ
8.โคสุรภี หรือ โคอุสุภราช พร้อมของหอม
9.หริธนู
10.สังข์
11.ปวงเทพีอัปสรสวรรค์ (มีนางอัปสรออกมาเยอะมาก พระอินทร์เอาคนเดียวไม่แบ่งใคร)
12.พิษร้าย ฝูงนาคและงูสูบพิษไว้
13.ธันวันตริ แพทย์สวรรค์
14.หม้อน้ำทิพย์อมฤต
เมื่อพากันกวนจนได้น้ำอมฤตแล้วพวกยักษ์เห็นนางอัปสรซึ่งสวยมักๆ ก็พากันไล่จับนางอัปสร จนลืมว่าที่ตัวเองมาเนี้ยมาเอาน้ำอมฤตนะเฟ้ย ในระหว่างที่พวกยักษ์ไล่จับนางอัปสร พวกเทพก็พากันมาต่อคิวดื่มน้ำอมฤต แต่ไม่ใช่ว่ายักษ์ทุกตนจะบ้าผู้หญิงนะ ยังมีพระราหูที่ไม่บ้าจี้ไปไล่จับนางอัปสร ก็มาต่อคิวดื่มน้ำอมฤตกับเค้าด้วย ในระหว่างที่พระราหูกำลังดื่มอยู่นั้น พระอาทิตย์กับพระจันทร์เห็นเข้าก็ไปฟ้องพระนารายณ์ พระนารายณ์เลยขว้างจักรมาตัดหัวพระราหู แต่ด้วยอำนาจของน้ำอมฤตที่ดื่มไปทำให้พระราหูไม่ตาย แต่ก็เหลือแต่หัวมาจนทุกวันนี้ และพระราหูก็โกรธพระอาทิตย์กับพระจันทร์มาก เจอที่ไหนจะต้องเอามาอมเล่นให้ได้
กว่าพวกยักษ์จะรู้ว่าตัวเองโดนหลอก น้ำอมฤตก็หมดแล้ว นางอัปสรก็จับไม่ได้ แถมยังต้องเสียพื้นที่บนสวรรค์ให้กับพวกเทพอีก น่าสงสารเป็นยิ่งนัก
——————————————————————–
เรื่องนี้เป็นตำนานเชิงสัญลักษณ์ของการสู้รบระหว่างชาวอารยันกับชาวดราวิเดียน (ฑราวิท) โดยชาวอารยันอพยพมาจากเอเชียกลาง มายังอินเดียในปัจจุบัน ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมของพวกดราวิเดียน และก็อย่างที่รู้พวกอารยันชนะ
ส่วนพระอินทร์ก็เป็นตัวแทนของแม่ทัพอารยัน และก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไร ออกจะเจ้าชู้ซะด้วย เห็นเมียใครสวยถูกใจไม่ได้ แอบไปทำชู้กับเค้าซะหมด มีหลายครั้งที่พระอินทร์โดนสาปเพราะไปเป็นชู้กับเมียฤๅษี เช่นโดยสาปไปเป็นหินบ้าง โดนสาปให้มีโยนี (อวัยวะเพศหญิง) ขึ้นเต็มตัวจนไม่กล้าออกไปไหนก็มี จนต้องมีคนมาช่วยวาดโยนีทั้งหมดให้ดูเหมือนลูกตาแกถึงกล้าออกไปเจอหน้าผู้คน
ปกติทุกตำนานมันก็จะมีที่มาจากเรื่องจริงนานวันเข้าก็กลายเป็นเทพนิยาย แต่เค้าโครงก็ยังเหมือนเดิมอยู่
เรื่องจริง -> เรื่องเล่า -> ตำนาน -> เทพนิยาย